ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล (Information Processing Theory)
ทิศนา แขมมณี (2553)
ได้กล่าวถึงทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลไว้ว่า
ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล
เป็นทฤษฎีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์
โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ทฤษฎีนี้เริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี ค.ศ.
1950 จวบจนปัจจุบัน คลอสเมียร์
ได้อธิบายการเรียนรู้ของมนุษย์โดยเปรียบเทียบการทำงานของคอมพิวเตอร์กับการทำงานของสมอง
ซึ่งมีการทำงานเป็นขั้นตอนดังนี้คือ
1. การรับข้อมูล
( input
) โดยผ่านทางอุปกรณ์หรือเครื่องรับข้อมูล
2. การเข้ารหัส
( encoding
) โดยอาศัยชุดคำสั่งหรือซอฟต์แวร์ ( software )
3. การส่งข้อมูลออก
( output
) โดยผ่านทางอุปกรณ์
กระบวนการประมวลข้อมูลโดยเริ่มต้นจากการที่มนุษย์รับสิ่งเร้าเข้ามาทางประสาทสัมผัสทั้ง
5 สิ่งเร้าที่เข้ามาจะได้รับการบันทึกไว้ในความจำระยะสั้น
ซึ่งการบันทึกนี้จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 2 ประการคือ การรู้จัก ( recognition
) และความใส่ใจ ( attention ) ของบุคคลที่รับสิ่งเร้า
ซึ่งจะดำรงอยู่ในระยะเวลาที่จำกัดมาก ในการทำงานที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้ชั่วคราว
อาจจำเป็นต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการจำช่วย เช่น การจัดกลุ่มคำ หรือการท่องซ้ำ ๆ
กันหลายครั้ง ซึ่งจะสามารถช่วยให้จดจำสิ่งนั้นไว้ใช้งานได้
การเก็บข้อมูลไว้ใช้ในภายหลัง
สามารถทำได้โดยข้อมูลนั้นจำเป็นต้องได้รับการประมวลและเปลี่ยนรูปโดยการเข้ารหัส ( encoding
) เพื่อนำไปเก็บไว้ในความจำระยะยาว ( long term memory ) ซึ่งอาจต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ เข้าช่วย เช่น การท่องซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
หรือการทำข้อมูลให้มีความหมายกับตนเอง ความจำระยะยาวนี้มี 2 ชนิด คือ
ความจำที่เกี่ยวกับภาษา ( semantic ) และความจำที่เกี่ยวกับเหตุการณ์
( episodic ) นอกจากนั้นยังอาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
ความจำประเภทกลไกที่เคลื่อนไหว ( motoric memory ) หรือความจำประเภทอารมณ์
ความรู้สึก ( affective memory )กระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลจะได้รับการบริหารควบคุมอีกชั้นหนึ่ง
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์แล้ว ก็คือโปรแกรมสั่งงานหรือ “ software
” นั่นเอง
ดังนั้น
ความรู้ในเชิงเมตาคอคนิชั่นหรือการรู้คิด
( metacognitive knowledge ) จึงมักประกอบไปด้วยความรู้เกี่ยวกับบุคคล
( person ) งาน ( task ) และกลวิธี ( strategy
)
ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
แพริสและคณะ (1983) ได้จำแนกความรู้ในเชิงเมตาคอคนิชั่นออกเป็น 3 ประเภท
เช่นเดียวกัน ได้แก่
1. ความรู้ในเชิงปัจจัย
( declarative
knowledge )
2. ความรู้เชิงกระบวนการ
( procedural
knowledge )
3. ความรู้เชิงเงื่อนไข
( conditional
knowledge )
เลิศชาย
ปานมุข (http://www.banprak-nfe.com/webboard/index.php?topic=2874.0;wap2) ได้กล่าวถึงทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลไว้ดังนี้
ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล (Information
Processing Theory) เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า
การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์
ณัชชากัญญ์ วิรัตนชัยวรรณ (https://www.l3nr.org/posts/386486 )
ได้กล่าวถึงทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูลไว้ว่า
ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล (Information
Processing Theory) เป็นทฤษฏีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์
โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง ทฤษฏีนี้มีแนวคิดว่า การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์
หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้คือ
การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่จะสามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น
จัดสิ่งเร้าในการเรียนรู้ให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียนสอนให้ฝึกการจำโดยใช้วิธีการที่หลากหลาย
หากต้องการให้ผู้เรียนจดจำเนื้อหาสาระใดๆ ได้เป็นเวลานาน สาระนั้นจะต้องได้รับการเข้ารหัส
(encoding) เพื่อนำไปเข้าหน่วยความจำระยะยาว วิธีการเข้ารหัสสามารถทำได้หลายวิธี
เช่น การท่องจำซ้ำๆ การทบทวน หรือการใช้กระบวนการขยายความคิด
สรุป
ทฤษฎีกระบวนการทางสมองในการประมวลข้อมูล
เป็นทฤษฎีที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับกระบวนพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ โดยให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง
ซึ่งทฤษฎีนี้มีแนวคิดว่า การทำงานของสมองมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์
ซึ่งมีการทำงานเป็นขั้นตอนดังนี้คือ
1. การรับข้อมูล
( input
) โดยผ่านทางอุปกรณ์หรือเครื่องรับข้อมูล
2. การเข้ารหัส
( encoding
) โดยอาศัยชุดคำสั่งหรือซอฟต์แวร์ ( software )
3. การส่งข้อมูลออก
( output
) โดยผ่านทางอุปกรณ์
หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีนี้คือ
การนำเสนอสิ่งเร้าที่ผู้เรียนรู้จักหรือมีข้อมูลอยู่จะสามารถช่วยให้ผู้เรียนหันมาใส่ใจและรับรู้สิ่งนั้น
ที่มา
ทิศนา
แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.
ด่านสุทธาการพิมพ์ : กรุงเทพฯ.
เลิศชาย
ปานมุข. http://www.banprak-nfe.com/webboard/index.php?topic=2874.0;wap. [online] เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น